Mount to Coast แบรนด์ รองเท้าจากภูเขาสู่ชายฝั่ง นี่คือการวิ่งนิยามใหม่ที่เน้น “ระยะทาง”

Mount to Coast แบรนด์ รองเท้าจากภูเขาสู่ชายฝั่ง นี่คือการวิ่งนิยามใหม่ที่เน้น “ระยะทาง”

.

Mount to Coast™

.

Mount to Coast แบรนด์ —ในโลกที่เต็มไปด้วยแบรนด์รองเท้าวิ่งนับร้อย มีเพียงไม่กี่แบรนด์ที่กล้าท้าทายแนวคิดเดิม ๆ Mount to Coast คือหนึ่งในนั้น จุดเริ่มต้นเกิดขึ้นจาก คำถามเดียวแต่ทรงพลัง จะเกิดอะไรขึ้น ถ้ารองเท้าวิ่งไม่ได้สร้างมาเพื่อวิ่งเร็ว แต่เพื่อ “วิ่งไกล” ?

Mount to Coast คือคำตอบของคำถามนั้น

แบรนด์น้องใหม่จากฮ่องกงที่กำลังเขย่าพื้นโลกแห่งรองเท้าวิ่ง ไม่ด้วยเสียงโฆษณาดัง แต่ด้วยความตั้งใจอันเงียบงันของคนที่ “เข้าใจระยะทาง” อย่างแท้จริง

“รองเท้าที่ดี ไม่ได้สร้างมาเพื่อให้คุณวิ่งเร็วที่สุด
แต่เพื่อให้คุณ ‘ไปถึง’ ที่ไกลที่สุด”

และจากแนวคิดนั้น รองเท้ารุ่นหนึ่งจึงไม่ได้เป็นเพียงผลิตภัณฑ์ แต่คือผลงานศิลปะของความมุ่งมั่น ความอดทน และการออกแบบ

วันนี้ เรามาทำความรู้จักแบรนด์นี้ไปด้วยกันค่ะ

.

Mount to Coast T1 Review: Trail Ready from Top to Bottom - Believe in the  Run

.


หากคุณชอบ Content เล่าเรื่องแบรนด์แบบเจาะลึก ตรงไปตรงมา ไปต่อเลยที่ >> https://www.style-stay.com/brand


.

จุดเริ่มต้นของเส้นทาง

Mount to Coast ถือกำเนิดในปี 2024 จากทีมผสมผสานระหว่างนักวิ่ง Ultra Marathon, Material Engineer, นักออกแบบอุตสาหกรรม และนักเทคโนโลยีกีฬาที่ล้วนมาจากแบรนด์ระดับโลกอย่าง ASICS, Brooks และ Nike

หลังจากทำงานในวงการรองเท้าวิ่งมาหลายปี พวกเขาต่างตั้งคำถามเดียวกัน
“ทำไมรองเท้าวิ่งถึงมักถูกออกแบบให้เน้นความเร็ว มากกว่าความทน?”

และเมื่อคำถามนั้นสะสมจนกลายเป็นความกล้า Mount to Coast จึงถือกำเนิดขึ้น แบรนด์ที่ตั้งใจสร้างรองเท้าซึ่งสามารถ “อยู่กับคุณ” ได้จนถึงเส้นชัยที่อยู่ไกลที่สุด

.

Mount to Coast makes shoes with a special sole for long distances - Galaxus

.


.

ทีมเบื้องหลัง — ศาสตร์และศิลป์ในระยะทางยาว

สิ่งที่ทำให้ Mount to Coast ต่างจากแบรนด์อื่น คือการรวมทีมที่หลากหลาย แต่มีเป้าหมายเดียวกัน

  • ทีม Design จากโตเกียวและโซล
    ผสมสไตล์ Minimal ของญี่ปุ่น เข้ากับ Functional Design ของเกาหลี พวกเขาออกแบบให้รองเท้ามีเส้นสายเรียบ แต่ “อ่านง่าย”ใช้สีเอิร์ธโทนและคัตลายโฟมแบบ architectural curve

  • ทีม Tech จากเยอรมนีและไต้หวัน
    พัฒนาวัสดุ LightCELL™ และ ZeroSag™ ร่วมกับ BASF โดยใช้เทคโนโลยีโครงสร้างกันสะเทือนของรถแข่ง เพื่อให้พื้นโฟมทนแรงกดได้เป็น 1,000 ไมล์

  • ทีม Product จากฮ่องกง และ ซานฟรานซิสโก
    ดูแลการทดสอบสวมจริงในสนาม ทุกคู่ผ่านการทดสอบกว่า 450 ไมล์ ก่อนจะถูกอนุมัติขึ้นไลน์ผลิต

ทั้งหมดนี้รวมตัวกันในศูนย์วิจัย Run Research Laboratory สถานที่ที่รองเท้าไม่ได้แค่ถูก “ออกแบบ” แต่ถูก “ทดลองใช้ชีวิตจริง”

.

Mount to Coast: The new running shoe that lasts 1,000 miles—or more -  Wellworthy


.

ศิลปะแห่งการออกแบบเพื่อระยะทาง

หัวใจของแบรนด์นี้คือการออกแบบที่มองรองเท้าเป็น “สถาปัตยกรรมของการเคลื่อนไหว”

  • LightCELL™ Foam — โฟม PEBA อัดไนโตรเจน เบากว่า EVA 50% แต่คืนแรงได้สูงกว่า 45%

May be an image of shoes and text

.

  • ZeroSag™ System — อินเสิร์ตโครงสร้างที่ป้องกันการทรุดของพื้นกลางเท้า

.

ZeroSag Midsole: Elevate Your Running Experience – Mount to Coast

.

  • TUNEDFIT Dual Lacing — ระบบร้อยเชือกที่แยกปรับได้สองโซน เพื่อรองรับการบวมของเท้าขณะวิ่งยาว

.

TUNEDFIT Technology Explained: Tune In, Stride Out

.

  • AirKnit Upper — ผ้าทอระบายอากาศที่โอบกระชับโดยไม่บีบ

.

Mount To Coast T1 Review: Their First Trail Shoe Is A WINNER

 

.

ทุกชิ้นส่วนถูกออกแบบด้วยหลักเดียวกัน:

“ให้รองเท้ากลายเป็นส่วนต่อขยายของร่างกาย ไม่ใช่สิ่งที่ต้องปรับตัวเข้าหา”


.

กว่าจะกลายเป็นรองเท้า 1 คู่

การผลิตรองเท้า Mount to Coast แต่ละรุ่นใช้เวลากว่า 18 เดือน และผ่านกระบวนการ 4 ขั้นตอนหลัก

1. วิจัยและเก็บข้อมูลจริง

ทีมวิจัยสัมภาษณ์นักวิ่งกว่า 200 คนทั่วโลก จากเทือกเขา อัลป์ จนถึงทะเลทรายซาฮารา เพื่อเก็บข้อมูลปัญหา — โฟมยุบ, เท้าบวม, แรงกระแทกในระยะ 100 กม.

2. ออกแบบและจำลองเสมือน

ใช้โปรแกรม 3D Motion Analysis จำลองแรงกดและมุมเท้า ก่อนพัฒนาโครงสร้างพื้นรองเท้าจริง

.

Mount to Coast R1 running shoe

.

3. ทดสอบสนามจริง

ทุกต้นแบบต้องผ่านการวิ่งทดลองกว่า 450 ไมล์ โดยนักวิ่งอัลตร้ามาราธอน หากไม่ผ่าน Run Lab จะถูก “รีเซ็ต” และออกแบบใหม่ทั้งหมด

4. ผลิตและตรวจสอบคุณภาพ

หลังจากผ่านการทดสอบหลายรอบ โรงงานผลิตใน ไต้หวัน จะสร้างแม่พิมพ์สุดท้าย และรองเท้าจะถูกทดสอบ อีก 72 ชั่วโมง ในห้องความชื้นและอุณหภูมิสูง เพื่อให้แน่ใจว่า “มันจะไม่ทรุด แม้เจอสภาพสุดขั้ว”

.

Mount to Coast: The new running shoe that lasts 1,000 miles—or more -  Wellworthy

.


3 Models หลักของแบรนด์

  • R1 – Racer’s Spirit
    คู่สำหรับการแข่งขันและระยะ Ultra – เบา แต่มั่นคง นักรีวิวจาก Doctors of Running เรียกว่า “รองเท้าที่รู้จักระยะดีกว่าคนใส่”

Mount to Coast: The Start of a Journey

 

  • S1 – Soul Trainer
    รุ่นฝึกซ้อมประจำวัน ที่ยังให้ฟีลของ performance shoe เส้นโค้งของ midsole ให้ความรู้สึก “ไหล แต่ไม่รีบ”

Mount to Coast: The Start of a Journey

 

  • T1 – Trail Seeker
    ออกแบบสำหรับทางวิบาก ผสมดอกยาง hybrid ที่ยึดเกาะบนหิน และ โคลนได้เท่ากัน

The Mount To Coast T1s Laugh At Mud And Rocks - IMBOLDN

.


ทำไม Mount to Coast ถึงควรติดอันดับต้น ๆ ของโลก

  1. เพราะทุกคู่คือผลงานร่วมของมนุษย์และเทคโนโลยี
    ไม่ใช่แค่รองเท้า แต่คือการทดลองทางวิศวกรรม และ จิตใจ

  2. เพราะมันซื่อสัตย์กับคำว่า “ระยะ”
    แบรนด์อื่นขายความเร็ว Mount to Coast ขาย “ความมั่นคงในทุกก้าว”

  3. เพราะมันถูกสร้างโดยนักวิ่ง เพื่อ นักวิ่ง
    ผู้ก่อตั้งคือคนที่รู้จักความเหนื่อย ความพ่ายแพ้ และรู้ว่าความสำเร็จมาจากอะไร

  4. เพราะการออกแบบมันงดงามในแบบที่ไม่ต้องอธิบาย
    เรียบ นุ่ม มีความเป็น architectural design ที่ดูได้ สัมผัสได้ และเข้าใจได้

  5. เพราะนี่คือความหรูหราแบบใหม่ — Endurance is Luxury.
    ความทน คือสิ่งที่มีค่าที่สุดในยุคนี้

.

Mount to Coast P1 Release Date & Designer Interview | Hypebeast

.


จากภูเขาสู่ชายฝั่ง

Mount to Coast ไม่ใช่แบรนด์ที่หวังจะขายรองเท้าให้ทุกคน แต่เป็นแบรนด์ที่อยากอยู่กับ “บางคน” ที่เข้าใจคำว่า ระยะทาง

เพราะในท้ายที่สุด
การวิ่งไม่ได้จบที่เส้นชัย
แต่มันจบเมื่อคุณหยุดเชื่อในตัวเอง

และเมื่อวันนั้นมาถึง
รองเท้าที่อยู่กับคุณจนถึงที่สุด
จะไม่ใช่แค่รองเท้า แต่คือส่วนหนึ่งของเรื่องราวชีวิต

.

Mount to Coast P1 Release Date & Designer Interview | Hypebeast

Mount to Coast™ Ushers in New Era of Running Performance with H1, a Hybrid  Shoe Redefining Durability

Mount to Coast — From Mountain to Coast, For Every Journey in Between.


Reference

.

Mount to Coast on X: "Today we are thrilled to launch two new record  breaking shoes for road ultrarunners: the R1, created for race days, and  the S1, tailored for daily training.

.

SHARE THIS :